การจัดฟัน คืออะไร??
การจัดฟัน คือ การรักษาความผิดปกติในการเรียงตัวของฟัน ทำให้ฟันไปอยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสม แก้ไขการสบฟันที่ผิดปกติ ฟันซ้อนเก ฟันห่าง ฟันยื่นมากเกินไป เพื่อการบดเคี้ยวอาหารที่มีประสิทธิภาพ รวมทั้งลดปัจจัยเสี่ยงในการเกิดฟันผุและเหงือกอักเสบ อันเนื่องมาจากความลำบากในการทำความสะอาดฟันและเหงือกในบริเวณที่ฟันเรียงตัวผิดปกติ ลดการเกิดรอยสึกของฟันจากการเรียงฟันหรือสบฟันที่ไม่เหมาะสม เช่น ปลายฟันหน้าบนล่างสบกระแทกกันทำให้ฟันสึกเตี้ยลง และยังช่วยเสริมบุคคลิกภาพจากการที่มีฟันเรียงตัวสวยงามด้วย
ฟันแบบไหนบ้างที่ควรจัดฟัน??
โดยทั่วไปแล้วทุกคนจะมีการสบฟันที่ผิดปกติ มากน้อยและรูปแบบแตกต่างกันไป ลักษณะการสบฟันที่ผิดปกติ มีดังนี้
1. ฟันยื่น
2. ฟันซ้อน
3. ฟันสบคร่อม
4. ฟันห่าง
5. ฟันสบลึก
6. ฟันสบเปิด
รูปแบบการจัดฟัน 5 ประเภท โดยทันตแพทย์เฉพาะทางจัดฟัน ม.มหิดล
เมื่อเข้ามาตรวจในช่องปาก คุณหมอจะแนะนำและให้ข้อมูล เพื่อช่วยผู้ป่วยได้ตัดสินใจว่าจะเลือกจัดฟันแบบไหน ที่เหมาะสมที่สุดต่อแผนการรักษาและความต้องการของแต่ละบุคคล ดังนี้
1. จัดฟันแบบโลหะ (Metal bracket)
ค่าจัดฟัน 35,000-42,000 บาท
แบ่งชำระ ครั้งที่ 1-4 ครั้งละ 3,500 บาท
ครั้งที่ 5 จนครบ ครั้งละ 1,000 บาท
เป็นเครื่องมือจัดฟันที่นิยมที่สุด โดยจะใช้ยางรัดลวดจัดฟัน (o-ring) ซึ่งมีสีสันต่างๆ ยึดลวดจัดฟันไว้ในเครื่องมือจัดฟัน (bracket) ที่ติดบนผิวหน้าฟันซึ่งต้องพบทันตแพทย์ทุกเดือน เพื่อปรับเครื่องมือจัดฟัน ค่าใช้จ่ายถูกที่สุด
2. จัดฟันระบบดามอน (Damon bracket)
ค่าจัดฟัน 65,000-75,000 บาท
แบ่งชำระ ครั้งที่ 1-4 ครั้งละ 7,500 บาท
ครั้งที่ 5 จนครบ ครั้งละ 2,000 บาท
ดามอน เป็นยี่ห้อหนึ่งของเครื่องมือจัดฟันแบบติดแน่น (bracket) ที่มีลักษณะเป็นบานพับเปิดปิดเวลาใส่ลวด (self ligating bracket) โดยไม่ต้องใส่ยาง o-ring เพื่อรัดลวดจัดฟัน ผลคือช่วยลดแรงเสียดทาน ส่งผลให้ฟันเคลื่อนที่เร็ว ทำให้ระยะเวลาการจัดฟันเสร็จเร็วขึ้น ลดความเจ็บปวดในการเคลื่อนฟันกว่าแบบโลหะ คราบจุลินทรีย์เกาะน้อยลงเพราะไม่มียาง 0-ring พบทันตแพทย์น้อยครั้งลง ไม่ต้องมาปรับเครื่องมือทุกเดือน แต่ราคาแพงกว่าแบบโลหะ
3. จัดฟันเซรามิกใส (Ceramic bracket)
ค่าจัดฟัน 50,000-60,000 บาท
แบ่งชำระ ครั้งที่ 1-4 ครั้งละ 8,500 บาท
ครั้งที่ 5 จนครบ ครั้งละ 1,000 บาท
เป็นเครื่องมือจัดฟันคล้ายกับการจัดฟันแบบโลหะ แต่ตัว bracket เป็นสีเหมือนฟัน ทำมาจาก ceramic เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ต้องการเห็นเครื่องมือชัดเจนนัก ต้องมาพบทันตแพทย์ทุกเดือน เพื่อปรับเครื่องมือจัดฟัน ราคาแพงกว่าแบบโลหะ
4. จัดฟันแบบใส (Invisalign)
invisalign i7 ราคาโปรโมชั่น 50,000 บาท (แบ่งชำระ 10,000/20,000/20,000 บาท)
invisalign lite ราคาโปรโมชั่น 80,000 บาท (แบ่งชำระ 20,000/20,000/20,000 บาท)
invisalign full ราคาโปรโมชั่น 130,000 บาท (แบ่งชำระ 30,000/40,000/30,000/30,000 บาท)
เป็นเครื่องมือจัดฟันถอดได้แบบพลาสติกใส จาก USA ที่ทำมาจากการจำลองการเคลื่อนฟันในคอมพิวเตอร์ เครื่องมือหนึ่งชิ้นจะเคลื่อนฟันได้ประมาณ 0.25 มิลลิเมตร ดังนั้น จะมีเครื่องมือหลายชิ้นตั้งแต่ต้นจนจบการรักษา จุดเด่นของจัดฟับแบบใส คือ มองไม่เห็นว่าจัดฟันอยู่ ไม่ต้องติดเครื่องมือติดแน่น สามารถถอดได้ทำให้ทานอาหารสะดวก และแปรงฟันได้ง่าย ลดความเสี่ยงต่อโรคฟันผุและโรคเหงือกอักเสบ ปัจจุบันจึงนิยมกันมากขึ้น แต่ราคาแพงที่สุด
5. จัดฟันร่วมกับการผ่าตัดขากรรไกร
ค่าจัดฟัน 60,000-75,000 บาท
แบ่งชำระ ครั้งที่ 1-2 ครั้งละ 15,000 บาท
ครั้งที่ 3 จนครบ ครั้งละ 2,000 บาท
ค่าผ่าตัดที่คณะทันตแพทย์มหิดล 70,000-80,000 บาทต่อขากรรไกร
สำหรับเคสที่มีความผิดปกติของขากรรไกรมาก เช่น คางยื่นมาก คางเบี้ยว หรือคางหดสั้นมากๆ ฟันบนกัดไม่ชนฟันล่าง หรือยิ้มแล้วเห็นเหงือกมาก
คำถามที่พบบ่อยเรื่องจัดฟัน
ช่วงอายุเท่าไรที่เหมาะกับการจัดฟันมากที่สุด
ช่วงอายุที่เหมาะกับการจัดฟันมากที่สุด คือ ช่วงอายุประมาณ 12-13 ปี ซึ่งอายุช่วงนั้นจะเป็นช่วงที่ฟันแท้เริ่มขึ้นครบ และขากรรไกรเริ่มมีการเจริญเติบโต ทำให้การขยายหรือลดรูปร่างขากรรไกรเป็นไปได้ง่าย
แต่จริงๆแล้ว ทุกเพศและทุกวัยสามารถจัดฟันได้ทั้งสิ้น โดยเฉพาะกลุ่มวัยผู้ใหญ่สามารถจัดฟันได้เช่นกัน หากสภาพโครงสร้างของฟันและโครงกระดูกหน้าอยู่ในสภาพเหมาะสม และผู้ใหญ่ส่วนใหญ่เริ่มสนใจการจัดฟันมากขึ้นเนื่องจาก ตระหนักถึงรอยยิ้มเป็นสำคัญ เพราะเป็นส่วนหนึ่งที่สำคัญของบุคลิกภาพ
การจัดฟัน จะต้องถอนฟันด้วยหรือเปล่า
การจัดฟันไม่จำเป็นเสมอไปที่จะต้องถอนฟันทุกเคส ขึ้นอยู่กับปัญหาและความต้องการที่อ ยากได้จากการจัดฟันของคนไข้ เป็นหลัก ภายใต้ความเป็นไปได้ของแผนการรักษา
ในผู้ป่วยบางรายที่มีฟันซ้อนกัน หรือฟันเกมากๆ การถอนฟันมักจะต้องทำเพื่อเพิ่มช่องว่างให้เหมาะสำหรับการเรียงตัวของฟัน โดยซี่ที่มักจะถูกถอน คือ ฟันกรามน้อยที่อยู่ถัดจากฟันเขี้ยว แต่ทันตแพทย์อาจจะพิจารณาถอนฟันที่มีความผิดปกติ เช่น ผุมาก หรือมีรูปร่างผิดปกติ เพื่อเก็บฟันซี่ที่ดีที่สุดไว้ แต่อาจจะทำให้ระยะเวลาในการจัดฟันนานขึ้น หรืออาจจะต้องใช้เครื่องมือพิเศษเพื่อช่วยในการรักษา
เวลาที่ใช้ในการจัดฟันนานแค่ไหน
ระยะเวลาที่ใช้ในการจัดฟันโดยส่วนใหญ่แล้ว จะใช้เวลาประมาณ 1-3 ปี หรืออาจนานกว่านั้น ขึ้นอยู่กับลักษณะปัญหาของคนไข้แต่ละท่าน ทั้งนี้ทันตแพทย์ที่ดูแลรักษาจะชี้แจงถึงรายละเอียดต่างๆให้คนไข้ทราบ ก่อนการรักษาอยู่แล้ว
การจัดฟัน จะทำให้รูปหน้าเปลี่ยนไปจากเดิมหรือไม่
ผลลัพธ์ที่ได้จากการจัดฟันแน่นอนคือ ฟันที่เรียงเป็นระเบีบบ ซึ่งก็ทำให้ได้รอยยิ้มที่สวยงามขึ้น แผนการรักษาก็มีส่วนสำคัญที่จะทำให้รูปหน้าเปลี่ยนไปจากเดิมมากน้อยแค่ไหน และแต่ละเคสก็พบปัญหาต่างๆกันไป รวมถึงการถอนฟันหรือไม่ถอนฟันก็มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงของรูปหน้า ดังนั้นก่อนที่จะตัดสินใจรักษาด้านการจัดฟัน ควรเลือกปรึกษากับทันตแพทย์ที่มีความรู้และความชำนาญเฉพาะทาง จัดฟันโดยตรง เพื่อให้ได้ผลการรักษาที่ตรงตามความต้องการมากที่สุด
เราจะมั่นใจได้อย่างไรว่า ฟันจะไม่กลับไปสู่สภาพเดิมหลังจากที่จัดฟันแล้ว
เครื่องมือที่ทันตแพทย์ใส่ให้ผู้ป่วย หลังจากถอดเครื่องมือจัดฟันที่ติดอยู่แล้วนั้น คือเครื่องมือช่วยคงสภาพฟัน ซึ่งผู้ป่วยหลังจัดฟันต้องใส่ทุกคน เพื่อป้องกันมิให้ฟันที่จัดไว้แล้วนั้นเคลื่อนไป เพราะโดยธรรมชาติแล้ว ฟันมีแนวโน้มที่จะเคลื่อนกลับไปในตำแหน่งที่บิดเกเหมือนก่อนจัดฟัน จึงมีความจำเป็นที่ต้องใส่เครื่องมือควบคุม ดังนั้นความร่วมมือของผู้ป่วย ในการใส่เครื่องมือนี้ และไปพบทันตแพทย์ตามนัดหมายอย่างต่อเนื่อง จึงมีความสำคัญยิ่ง ที่จะทำให้ผลการรักษาประสบความสำเร็จ คงสภาพฟันที่จัดไว้ดีแล้วให้เป็นระเบียบสวยงามต่อไป